มือใหม่หัดเลี้ยง
มี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ชอบเลี้ยงปลา สอบถามว่าควรเลือกซื้อปลาอย่างไร ตัวผู้-ตัวเมียดูกันอย่างไร ขนาดของปลาและตู้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำ ให้ปลากินอะไรถึงจะดี กินอะไรแล้วหัวโหนกๆ เร็วๆ เป็นต้น
1. ลูกค้าถามว่าจะเลือกปลาอย่างไร
ตอบแบบได้ใจความ ก็ต้องเลือกที่เราชอบ แล้วอะไรละที่เราชอบ “มุก มาร์ค แดง โหนกใหญ่สุดๆ เวอร์สุดๆ” อันนี้เป็นปลาในจินตนาการที่ทุกคนอยากจะมีไว้ครอบครอง ขอบอกปลาสวยๆ ครบๆ ราคาค่อนข้างสูงมาก ม๊าก บางตัวราคาจับได้ บางตัวก็ได้แต่มอง รอให้มันมีลูก แล้วซื้อลูกมันมาลุ้น(เคยเหมือนกัน) ที่กล่าวมาข้างต้นทุกคนก็คงคิดเหมือนๆ กัน แต่ถ้ามองไปลึกๆแล้วการซื้อปลามาเพื่อเลี้ยงตัวหนึ่ง มันมีเหตุผลอะไร บางคนเลี้ยงไว้โชว์ บางคนเลี้ยงไว้คลายเหงา บางคนเลี้ยงไว้ขาย เป็นต้น โดยส่วนตัวก่อนที่เราจะซื้อเราต้องรู้สาเหตุว่าจะซื้อมาเลี้ยงเพื่ออะไร ด้วยสาเหตุอะไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อเพื่อโชว์ ก็ต้องเลือกแบบสวยครบๆ ไม่มีตำหนิ ถ้าซื้อมาขายก็ต้องเลือกเอาที่ตลาดกำลังต้องการ หรือซื้อมาเลื้ยงแก้เหงา ก็อาจจะเลือกสวยถูกใจ สวยพอประมาณ(สวย มากๆ แจ่มๆ ราคาแรง) ไม่ต้องถึงขั้นขนาดเกรดประกวด และบางคนซื้อมาเพื่อทำพันธุ์ ก็อาจจะต้องดูเรื่องสายเลือดเป็นหลัก
2. พี่ๆ ปลาตัวผู้ ตัวเมียดูอย่างไร
จริงๆแล้วปลาตัวผู้-ตัวเมีย จะมีลักษณะที่สังเกตดูได้ และยืนยันได้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็มี 2 จุดหลักๆ
จุดที่ 1 มีกิ๊ฟดำติดที่กระโดงบน ต้องบอกว่า ประมาณ 80%เป็นตัวเมีย แต่ก็อีกแหละ ตัวผู้ที่ติดกิ๊ฟกระโดงบนก็มี หรือตัวเมียไม่ติดกิ๊ฟเลยก็มี
จุดที่ 2 ดูท่อเพศ การดูท่อเพศ สามารถยืนยันเพศได้ 100%โดยลักษณะท่อเพศตัวผู้จะคล้ายหลอดดูดน้ำเป็นแท่งตรงๆ หรือบางตัวอาจงอเล็กน้อย ส่วนตัวเมียลักษณะท่อเพศจะไม่เป็นหลอดเหมือนตัวผู้ เป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนปลายจะโค้งไปด้านหน้า ตามรูปด้านล่างค่ะ ถ้าสังเกตบ่อยๆ ก็จะสามารถแยกแยะออกได้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย
3.ปลาและขนาดตู้
อันนี้เป็นอีกคำถามหนึ่งที่ถามกันมาเยอะมาก
สอบถามกันเข้ามาว่าผมมีปลา.....นิ้ว แล้วควรใช้ตู้ปลาขนาดเท่าไรดีครับพี่ จริงๆแล้วทางบ้านปลาแสนสุขแนะนำว่า การจะซื้อปลามาเลี้ยงสักตัว ก็เหมือนการลงทุน ลงทุนครั้งเดียว แล้วเลี้ยงกันได้นานๆ มันคุ้มค่า
ยกตัวอย่าง เช่น ทางร้านมีปลา 2-3 นิ้วเลี้ยงในตู้ 48 บางคนมองว่าทำไมตัวเล็กเลี้ยงตู้ใหญ่ขนาดนี้มันกว้างมาก ถ้ามองกันยาวๆ ปลา 2-3 นิ้ว เมื่อมันโตขึ้นเราก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตู้บ่อยๆ แต่ก็ต้องดูเนื้อที่ในการวางตู้ด้วย บางคนพื้นที่อาจมีจำกัดเป็นต้น แต่อีกกรณีหนึ่ง มีปลา 2-3 นิ้ว ใส่ตู้ 24 แบบมีกรองด้วย เวลาผ่านไป 2 เดือน ปลาโตขึ้นแต่ตู้ดูเล็กลง ถ้าไม่คิดมากก็เลี้ยงกันต่อไป แต่บางคนกังวลก็ต้องมาเปลี่ยนตู้ให้ปลาไปเรื่อยๆ ตามขนาดของปลา ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก
4.ฮีสเตอร์ควรตั้งอุณหภูมิเท่าไรดี
ฮีสเตอร์เป็นตัวปรับอุณหภูมิให้คงที่เพื่อลดการแกว่งของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ลดปัญหาปลาป่วย อุณหภูมิที่ควรจะตั้งประมาณ 30 องศา +- 1 องศา และถ้าจะให้ดีควรมีปรอทวัดอุณหภูมิไว้เช็คฮีสเตอร์ว่าทำงานตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้รึเปล่า
5. พี่ๆ ให้ปลากินอะไรถึงจะดีที่สุด
จริงๆแล้วควรฝึกให้ปลากินอาหารได้หลายๆอย่าง โดยส่วนตัวปกติจะให้ปลากินแต่อาหารสด เป็นบางครั้งบางคราวที่อาหารสดขาด หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่ไม่สามารถให้อาหารสดได้ ก็จะให้เป็นอาหารเม็ดแทน บางครั้งคนเลี้ยงคิดมากว่าควรจะหาอาหารอะไรที่ดีที่สุดให้ปลากิน แต่ลองนึกกันดูว่าปลาที่อยู่ตามธรรมชาติ จริงๆแล้ววันๆ หนึ่งปลาจะได้กินกันกี่มื้อ แล้วแต่ละมื้อจะได้กินชนิดที่ว่าท้องปริ้นๆเลยรึเปล่า แล้วตอบโจทย์ที่สงสัยกันดู
ส่วนปริมาณการให้อาหาร ต้องเข้าใจก่อนว่าเราให้อาหารปลากินเยอะ ปลาก็ขับถ่ายของเสียออกมาเยอะตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของน้ำเสียเร็ว โดยหลักทั่วไป ปริมาณอาหารควรให้ปลากินหมดภายใน 5 นาที หรือเร็วกว่านั้น (แต่ก็อีกนั้นแหละ กลัวว่าปลาตัวโปรดจะไม่อิ่ม)
6. เรื่องของน้ำ การเปลี่ยนถ่ายน้ำ
สืบเนื่องมาจากหัวข้อด้านบน น้ำกี่วันควรจะเปลี่ยนได้แล้ว(ตอบไม่ถูก) เอาแบบง่ายๆ ให้สังเกตจากอาการของปลา และการแตกตัวของฟองอากาศที่ออกจากหัวทรายบริเวณผิวน้ำ เหตุผลที่ให้สังเกต อาการปลาก็คือ ถ้าน้ำสกปรกจะมีเชื้อโรค ปลาจะมีอาการเอาตัวถูไถ่กับตู้หรือหิน(ปลามันคัน) ต้องมั่นสังเกตดู ถึงแม้น้ำจะยังใสก็ตาม และอีกข้อให้สังเกตฟองอากาศที่ออกมาจากหัวทราย ที่บริเวณผิวน้ำ ถ้าน้ำยังมีคุณภาพยังดี การแตกตัวของฟองอากาศจะเร็ว ซึ่งต่างกับน้ำที่มีคุณภาพแย่ ฟองอากาศจะแตกตัวได้ช้าหรือไม่แตกเลย และเป็นฟองอยู่บริเวณผิวน้ำ สาเหตุข้างต้นล้วนแล้วมาจากการให้อาหารเยอะเกินไป ปลากินเยอะ ก็ถ่ายเยอะ(ก็กลัวปลาไม่อิ่มนี้นา) แทนที่ปลาจะอิ่มกับเป็นโรคแทน เพราะน้ำไม่สะอาด
7. เจอคำถามนี้แล้วปวดหัวอย่างแรง ทำอย่างไรให้ปลาโหนกๆ ใหญ่ๆ เร็วๆ ปัญหาโลกแตก
ต้องบอกก่อนว่าลักษณะของหัวปลา หรือที่เรียกว่าโหนก พอจะแยกประเภทได้คราวๆ ดังนี้
-โหนกน้ำ พองเร็ว ยุบเร็ว เวอร์ ตั้งแต่เด็กๆ (แต่ต้องติดฮีสเตอร์ด้วนนะ)
-โหนกเนื้อ ยุบน้อย โหนกตามวัย แต่หัวใหญ่ โครตๆ(ตอนอายุมาก)
-โหนกน้ำ+โหนกเนื้อ ยุบน้อย พองเร็ว เวอร์ได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก
ที่กล่าวมานั้น ขึ้นอยู่กับสายเลือดของตัวปลาด้วยนะค่ะ
บางคนถามว่าให้กินอะไรดีพี่ หัวถึงจะได้โหนกเร็วๆ ใหญ่ๆ อาหารมีส่วนช่วยบางเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วขึ้นอยู่ทีสายเลือดเป็นหลัก
ปลาหมอสีเลี้ยงไม่ยากเลยนะค่ะ
อึดมาก ม๊ากด้วย
แต่ปัจจัยสำคัญอยู่ที่
**********************
ความรักและเอาใจใส่ปลา สังเกตุพฤติกรรม
น้ำที่สะอาด
อาหารที่สะอาด
อุณหภูมิที่คงที่
*************************************
ปลาทุกตัวมีความสวยในตัวของมันเอง มีเสน่ห์
และมีเอกลักษณ์ แตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะมองแบบไหน
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ที่รสนิยม
และความพึงพอใจของแต่ละ
คนด้วยนะค่ะ
**********************************
DODGE+DA
บ้านปลาแสนสุขแม่กลอง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น