วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การผสมพันธุ์ปลาหมอสี


การผสมพันธุ์ปลาหมอสีเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะพอสมควร โดยปกติแล้วนักเลี้ยงปลาทั้งหลายเมื่อเริ่มเลี้ยงปลาไปสักระยะก็จะรู้สึกอยากที่จะลองผสมพันธุ์ปลาดูสักครั้งว่าจะเป็นอย่างไร จะหัวโหนกเหมือนคนอื่นๆไหม ซึ่งการตีปลาออกมาในทรรศนคติแล้วเป็นเรื่องของจินตนาการล้วนๆ โดยแต่ละคนจะมีปลาในจินตนาการของทุกคนอยู่แล้ว ว่าอยากจะทำปลาออกมาให้ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ โดยจับพ่อตัวนั้นเข้ากับแม่ตัวนี้แล้วลูกที่ออกมาก็น่าจะออกในแนวนั้นๆ ตามที่คาดหวังไว้ บางก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของCrossbreed ซึ่งมันไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว ต่อไปนี้เราจะมาดูกันว่าการผสมพันธุ์ปลาหมอสีจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง


พ่อพันธุ์
            ปลาพ่อพันธุ์ที่จะนำมาใช้ในทางทฤษฎีแล้วก็ควรจะอายุ 1 ปีขึ้นไปเพราะปลาจะมีความสมบูรณ์ในทุกๆด้านและถึงวัยอันสมควรแล้ว ถ้าความเป็นจริงในทางปฏิบัติแล้วบ่อยครั้งที่เราอาจจะเจอกับปลาที่อายุน้อยแต่สามารถฉีดเชื้อได้แล้วและปลาที่อายุร่วมปียังฉีดไม่ติดก็มีก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของปลาเป็นหลัก ต่อให้เราอัดอาหารวิตามินหรืออื่นๆ สารพัดเข้าไป ถ้าปลาไม่พร้อมมันก็ไม่ทำหน้าที่ของมัน เราไม่สามารถบังคับให้ปลาทำตามใจเราได้

แม่พันธุ์
            ปลาแม่พันธุ์มีความสำคัญไม่แพ้ตัวผู้เพราะอะไร ถ้าถามนักบรีดเดอร์หลายท่านก็คงจะรู้ว่าตัวเมียเหมือนกับของรักของหวงที่จะไม่ยอมให้หลุดมือจากตัวเจ้าของเลยยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก แล้วตัวเมียมันดีอย่างไร ทำไมถึงได้หวงกันขนานนั้น ถ้าพูดกันตามตัวหนังสือแล้ว ปลาตัวผู้จะถ่ายทอดในเรื่องของสรีระ ส่วนตัวเมียถ่ายทอดรายละเอียดซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วถ้าทางปฏิบัตละเป็นอย่างไร จากการทดลองพบว่า ตัวพ่อพันธุ์ที่ ถ่ายทอดโครงสร้างที่ดีนั้นเมื่อเจอกับตัวเมียที่ไม่ดีแล้ว ผลที่ออกมาจะตรงกันข้ามกันคือ แทนที่จะช่วยเสริมแต่กลับจะลดทอนการถ่ายทอดประสิทธิภาพทางพันธุกรรมลงไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลูกปลาที่เกิดขึ้นแน่นอน จะเห็นได้ว่าปลาคอกหนึ่งจะคิดตัวสวยเป็นเปอร์เซ็นต์นั่นเองว่าให้ลูกดีกี่เปอร์เซ็นต์ บ้างก็ไม่ได้อย่างที่คิดไว้เลยก็มี(ส่วนใหญ่) ฉะนั้นการหาตัวเมียมาทำพันธุ์สักตัวก็มีความจำเป็นที่จะต้องดูในเรื่องของสายพันธุ์ เปอร์เซ็นต์ต่อคอก และรายละเอียดต่างๆในตัวปลานั้นๆเป็นสำคัญ จึงทำให้บรรดาบรีดเดอร์ทั้งหลายพยายามเสาะแสวงหาแม่พันธุ์ชั้นเลิศมาไว้ในครอบครองและส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเปิดเผยสักเท่าไรนัก แต่อย่างไรก็ดีทางผู้เขียนก็ยังเชื่อลึกๆว่านอกจากพ่อแม่พันธุ์ที่ดีแล้วสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือความพอดีของสายเลือดนั้นเอง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วปลาที่ตีออกมาจากพ่อแม่พันธุ์สายดังๆ ก็ต้องดีทั้งหมด ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วมันเป็นไปได้ยาก จะเห็นได้ว่าปลาสายดังๆ ที่เรานำพี่น้องคอกเดียวกันมาทำเหมือนกันทุกอย่างแต่ทำไมลูกปลาที่ออกมาไม่เหมือนกัน อันนี้ก็ต้องพิจารณากันดูให้ดี

การเข้าคู่
            เมื่อเราได้พ่อแม่พันธุ์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเลย ปลาหมอสีเป็นปลาที่มีความหวงอาณาเขตมากและจะดุร้ายเมื่อเจอผู้รุกราน ฉะนั้นเมื่อเราต้องการผสมพันธุ์ก็จำเป็นที่จะต้องใส่ตัวเมียลงไปเพื่อผสมพันธุ์และแน่นอนว่าจะต้องมีการกัดกันเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเข้าคู่ปลา แต่ในบางครั้งก็ไม่มีการกัดกันเลยก็มี ซึ่งโดยปกติแล้วปลาตัวผู้เมื่อเห็นปลาตัวเมียมันก็จะเริ่มแสดงอาการตีกรรเชียงไปรอบๆปลาตัวเมีย เพื่อเป็นการข่มขวัญปลาตัวเมียแสดงออกให้เห็นว่ามีความพร้อมจะเข้าคู่ โดยจะว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว ครีบเครื่องกางออกมาตลอด มีโฉบกัดตัวเมียบ้าง โดยตัวเมียก็จะแสดงอาการเหมือนกับตัวผู้ได้เช่นกันและบ้างครั้งตัวเมียอ่อนประสบการณ์จะวิ่งหนีตัวผู้ แต่บางตัวที่เจนสนามจะสู้กับตัวผู้แบบไม่มีใครยอมใครเลยก็มีตรงนี้มีขอสังเกตนิดนึ่งว่า ถ้าเจอปลาตัวผู้ที่ค่อนข้างดุ ตัวเมียไม่ดุก็ต้องระวังว่าถ้าตัวเมียวิ่งหนีเมื่อไรก็ควรแยกเทียบไว้ก่อนโดยการหาแผงกั้นที่มีขายตามท้องตลาดมากั้นไว้ก่อนเพื่อทำให้ชินกันก่อนและในกรณีเดียวกันหากเจอตัวเมียที่ดุมากก็จะเกิดการกัดกันชนิดรุนแรงก็ต้องจับแยกเทียบเหมือนกัน แต่ถ้าโชคดีทั้งตัวผู้และตัวเมียไม่ดุก็ง่ายเลยไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้อยู่กันได้เลยและรอให้ตัวเมียไข่อย่างเดียว จากรายละเอียดที่กล่าวมาข้างต้นจะสรุป

วิธีการผสมพันธุ์ให้เป็นข้อๆ ดังนี้

1.จับพ่อแม่พันธุ์ใส่ในตู้ผสมที่เราเตรียมไว้
2.ดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ว่าทั้งตัวผู้และตัวเมียเข้ากันได้หรือไม่
3.ถ้าเกิดกัดกันนานกว่า 30 นาทีหรือวิ่งไล่กันจนน้ำกระจายก็ควรแยกกั้นไว้เพื่อเทียบให้ปลาชินกันก่อนสัก 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยแล้วค่อยปล่อยใหม่
4.หากไม่มีการกัดกันรุ่นแรงหรือมีเพียงเล็กน้อยแล้วก็เลิกกัดกันก็ให้ใส่ถาดกระเบื้องดินเผาชนิดที่ไม่มีสารเคลือบลงไป เพื่อให้ปลาไข่ใส่ถาดหรือจะใช้ภาชนะอื่นก็ได้แล้วแต่สะดวก
5.ติดตั้งฮีสเตอร์ไว้อุณหภูมิระหว่าง 28-31 องศาเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่(มีผลต่อการไข่ปลา)
6.ให้ดูพฤติกรรมของปลาว่าเป็นอย่างไร หลังจากที่เราใส่ถาดลงไป โดยปกติถ้าปลาพร้อมที่จะผสมพันธุ์ตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันทำความสะอาดถาดเพื่อเตรียมวางไข่ โดยทั้งตัวผู้และตัวเมียจะกัดถาดและเอาตัวถูไปกับพื้นถาดและส่ายหัวดุ๊กดิ๊กไปมาในบางครั้งแสดงให้เห็นว่าปลาสมบูรณ์มากๆ พร้อมที่จะผสมพันธุ์
7.ในช่วงที่พ่อแม่พันธุ์อยู่ด้วยกัน ควรรักษาความสะอาดของน้ำและให้อาหารที่สดสะอาดตลอด
8.ในกรณีที่ปลาไข่แล้วให้ทำการยกถาดไปไว้ในตู้อนุบาลลูกปลา(หลังจากปลาผสมกันแล้ว 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย)เพื่อเพาะฟักไข่ต่อไป

เทคนิคเล็กๆน้อยๆ

-ตำแหน่งการวางถาดในตู้ปลาควรอยู่ในบริเวณที่เป็นมุมใดมุมหนึ่งของตู้ปลา เพราะโดยปกติแล้วปลาตัวเมียส่วนใหญ่ชอบไข่บริเวณมุมตู้
-ในตู้เพาะฟักอนุบาลลูกปลาควรติดตั้งฮีสเตอร์ไว้ด้วย จากการสังเกตุพบว่าลูกปลาที่ฟักเป็นตัวจะแข็งแรงกว่าตู้เพาะฟักอนุบาลลูกปลาที่ไม่ได้ติดฮีสเตอร์ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 28-31 องศา
-ขนาดของปลาตัวผู้ควรใหญ่กว่า 1 เท่าของตัวเมีย ยกตัวอย่างเช่น ตัวผู้ 6 นิ้ว ตัวเมียก็ควรจะขนาด 3-4.5 นิ้วโดยประมาณ
-ระยะเวลาและความถี่ในการไข่ของแม่ปลา โดยปกติจะขึ้นอยู่กับอายุปลาและความสมบูรณ์ ถ้าปลาอายุน้อยจะไข่บ่อยประมาณ 15 วันครั้ง ปริมาณไข่ก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเมียด้วย และเมื่อปลาเริ่มอายุมากขึ้น ในปลาตัวเมียบางตัวระยะห่างของการว่างไข่จะเลื่อนออกไปตามลำดับ(จากประสบการณ์)และขนาดของไข่จะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์อายุและขนาดของตัวเมียด้วยเช่นกัน
-ทำอย่างไรให้ปลาไม่กัดกันหรือกัดกันน้อยลงเข้ากันได้เร็วขึ้น อันนี้จากประสบการณ์ให้นำปลาตัวเมียอีกตัวมาใส่ล่อไว้ในบริเวณที่ตัวผู้ตัวเมียอยู่ด้วยกัน โดยกั้นแบ่งเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเมียที่เราใส่ลงไปล่อ เกิดการบาดเจ็บได้และสังเกตได้ว่าถ้าปลาเข้าคู่กันได้ปลาทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมาช่วยกันรุมกัดปลาตัวเมียอีกตัวที่ใส่ลงไปล่อไว้ และจะทำให้ปลาทั้งคู่เข้าคู่กันได้เร็วขึ้น ควรใส่ปลาล่อทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์หรือแล้วแต่ผู้เพาะจะสังเกตว่าปลาตัวผู้ตัวเมียเข้ากันได้ดีแล้ว จึงตักออกก็ได้
-จะสังเกตอย่างไรว่าปลาตัวผู้ฉีดเชื้อได้หรือไม่ โดยปกติแล้วปลาตัวผู้เวลาจะฉีดเชื้อ ท่อเพศจะยาวออกมามากกว่าปกติคือ 1-1.5 ซ.ม. ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนโดยทั้งตัวผู้และตัวเมียจะว่ายเข้าออกบริเวณถาดไข่สลับกัน ลักษณะตัวผู้ขณะฉีดเชื้อ ลำตัวจะเป็นบังๆ สีดำส่วนหัวจะยุบลงกว่าปกติมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับปลาแต่ละตัวและเมื่อตัวเมียไข่เสร็จ ตัวเมียจะเฝ้าถาดที่มีไข่โดยไม่ยอมให้ตัวผู้เข้าใกล้ถาดอีกและยังมีข้อสังเกตอีกนิดว่าบริเวณผิวน้ำจะเป็นเมือกมีฟองอากาศที่ไม่แตกตัวและกลิ่นคาวจากน้ำเชื้อตัวผู้ด้วยในกรณีที่ตัวผู้ฉีดเชื้อเมือกและฟองอากาศจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเชื้อตัวผู้ด้วย
-การย้ายถาดอันนี้สำคัญมาก หลังจากพ่อแม่พันธุ์ผสมกันเสร็จจะใช้เวลาในการปฏิสนธิระหว่างไข่กับน้ำเชื้อเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเพราะฉะนั้นไม่ควรย้ายถาดไข่ทันที่หลังจากพ่อแม่พันธุ์ผสมเสร็จก่อน 2 ชั่วโมง ถ้าจะให้ดีให้หาแผงกั้นมากั้นพ่อแม่ปลาออกไปก่อนให้ไข่ได้อยู่ต่างหากและควรใช้หัวทรายป่องบริเวณถาดไข่ให้แรงๆเข้าไว้เพื่อการถ่ายเทออกซิเจนไปสู่ไข่ปลา


           
           
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นวิทยาทาน ให้สำหรับพี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ที่ชอบเลี้ยงปลา บ้านปลาแสนสุขแม่กลองหวังว่าบทความจากประสบการณ์จริง
นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้ศึกษาและทางเรา ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะค่ะ

ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงปลานะค่ะ 
เราทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ

บ้านปลาแสนสุขแม่กลอง
ขอบคุณมากค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมพึ่งเริ่มเพาะกำลังหาจข้อมูลพอดี ขอบคุนสำหรับความรู้คับ

    ตอบลบ